มัทยา ขอรวบรวมข้อมูลต่างๆของเลนส์โปรเกรสซีฟ (Progessive lens) ทุกรุ่น ของ Nikon แต่ละรุ่นมีฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีที่แตกต่างกันอย่างไร? มีลูกค้าหลายท่านเมื่อสนใจอยากตัดเลนส์โปรเกรสซีฟของ Nikon อาจมีความสับสนว่า เลนส์แต่ละรุ่น แต่ละชื่อมีความแตกต่างกันอย่างไร วันนี้เรามาไขข้อข้องใจกันค่ะ
ประวัติโดยย่อของบริษัทเลนส์แว่นตา Nikon
บริษัท Nikon Corporation ก่อตั้งเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 1917 ที่ประเทศญี่ปุ่น ในยุคแรกเริ่มบริษัทนิคอน เป็นการรวมตัวของ 3 บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเลนส์กล้อง เลนส์สายตา
ในปี 1946 ช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่สอง บริษัท Nikon ได้ถูกยกย่องให้เป็นบริษัทที่สามารถผลิตเลนส์ได้มีคุณภาพสูง จนบริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดด และมีการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเลนส์ ใช้นวัตกรรมล้ำสมัย
ตั้งแต่ยุค 2000 เป็นต้นมาบริษัทนิคอน ได้พยายามค้นคว้าวิจัย เทคโนโลยีการแก้ปัญหาสายตา เพื่อพัฒนาเลนส์ให้ตอบโจทย์กับปัญหาและการใช้งานของผู้ใช้มากที่สุด และเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก
เลือกเลนส์โปรเกรสซีฟ เหมือนเลือกรถยนต์
การลำดับรุ่นของเลนส์โปรเกรสซีฟ ยี่ห้อ Nikon นั้นเหมือนกับลำดับรุ่นของรถยนต์ ที่จะมีรุ่นให้ผู้ใช้เลือก ตั้งแต่รุ่นมาตรฐาน ไปยังรุ่นท็อป
ซึ่งระหว่าง รุ่นมาตรฐานกับรุ่นท็อปนั้น มีความแตกต่างกันที่ฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีที่ใส่ลงไปในเลนส์ เพื่อช่วยในการมองเห็นที่ดีขึ้น ปรับตัวในการใช้งานได้เร็วและง่ายขึ้น
เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นต่างๆ ของยี่ห้อ Nikon
โดยรุ่นของเลนส์โปรเกรสซีฟ Nikon มีอยู่ 2 ซีรี่ย์คือ Seemax และ Presio ซึ่งในแต่ละซีรี่ย์มีการแยกรุ่นย่อยลงไป ตามลำดับราคาและเทคโนโลยีที่ใส่ลงไปในชิ้นเลนส์ หมอได้เรียงลำดับรุ่นต่างๆ จากรุ่นท็อปไปยังรุ่นมาตรฐาน ได้ดังนี้
Seemax ultimate
เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นท็อปที่สุดของ ยี่ห้อ Nikon ในปัจจุบัน อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและการวัดค่าสายตาเฉพาะบุคคลอย่างละเอียด
Seemax master
เลนส์รุ่นรองลงมา ในตระกูล Seemax มีจุดเด่นในการลดความเครียดของดวงตาทั้งสองข้างสวมใส่สบายตา
Presio master
เลนส์โปรเกรสซีฟระดับพรีเมียม มีจุดเด่นในการขจัดความผิดเพี้ยนของภาพโดยรอบให้ได้มากที่สุด
Presio power
เลนส์โปรเกรสซีฟที่ถูกออกแบบมาแบบกำลังคู่ มีวิสัยทัศน์ระดับกลางที่กว้างขึ้น มองเห็นคมชัดมากยิ่งขึ้น
Presio advance
เลนส์โปรเกรสซีฟ ที่ใช้เทคโนโลยีในการขัดเลนส์รูปแบบเฉพาะของยี่ห้อ Nikon มีความแม่นยำและทันสมัย
Presio first
เลนส์รุ่นมาตรฐาน ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตา ตอบสนองต่อความต้องการในชีวิตประจำวัน
เทคโนโลยีช่วยการมองเห็น NODE OPTIMIZATION
NODE: Nikon Optical Design Engine คือ เทคโนโลยีการคำนวนค่าสายตาและค่าพารามิเตอร์ของแว่นเอกสิทธิ์เฉพาะบริษัท Nikon เพื่อใช้คำนวนและปรับสูตรในการรวมแสงของผิวเลนส์ให้เหมาะสม และผลิตเลนส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
เมื่อค่าต่างๆถูกวัดอย่างละเอียด จะทำการส่งค่าสายตาและค่าพารามิเตอร์ไปผลิต Progressive Lens ที่ประเทศญี่ปุ่น
NODE OPTIMIZATION มีการคำนวนพารามิเตอร์ของแว่นทั้ง 12 ข้อดังนี้
- Index ความหนาของเลนส์
- Cylinder ค่าสายตาเอียง
- Sphere ค่าสายตา สั้น – ยาว
- Axis องศาของค่าเอียง
- Accommodation การเพ่งของดวงตา
- Design รุ่นของเลนส์โปรเกรสซีฟ
- Tilt angle มุมเทหน้าแว่น
- Warp angle ความโค้งหน้าแว่น
- Frame shape ขนาดของกรอบแว่น
- Eye lens ระยะห่างระหว่างดวงตากับแว่น
- Reading distance ระยะอ่านหนังสือ
- Progression Lenght ระยะเหลือบตา
สรุป
เลนส์โปรเกรสซีฟ Nikon นับว่าเป็นยี่ห้อเลนส์ที่ร้านแว่นตาทั่วโลกให้การยอมรับในเรื่องของเทคโนโลยีที่อยู่ในเลนส์ และคุณภาพในการผลิตระดับสูง ช่วยแก้ปัญหาสายตาให้กับคนที่มีปัญหาให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติ
หมอขอแนะนำให้คุณลูกค้าทุกท่าน ได้เข้ามาทดลองสวมใส่เลนส์โปรเกรสซีฟของจริง ที่ MATTAYA CLINIC & BE MY GLASSES มีให้คุณลูกค้าทุกท่านได้ทดลองก่อนตัดสินใจซื้อ
เพราะเลนส์โปรเกรสซีฟไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อรุ่นท็อปที่สุด แพงที่สุด เพื่อที่จะได้เลนส์ที่เหมาะสมกับตัวเอง แต่ควรเลือกเลนส์ที่ใส่แล้วสบายตาที่สุด เหมาะสมกับการใช้ในชีวิตประจำวันมากที่สุด จึงจำเป็นต้องทดลองจนกว่าจะเจอเลนส์ที่ใช่สำหรับคุณค่ะ