เลนส์ Hoya มีกี่แบบ ดีไหม ราคาเท่าไหร่ รวมทุกรุ่นที่คุณต้องรู้

เลนส์ Hoya มีทั้งหมด 6 แบบ ผลิตขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ค่าสายตา และการใช้งานของแต่ละบุคคลที่ไม่เหมือนกัน รายละเอียดมีดังต่อไปนี้

1. เลนส์ชั้นเดียว (Hoya Single Vision Lens)

เป็นเลนส์ที่มีค่าสายตาเดียว เหมาะสำหรับใช้เป็นแว่นสายตาสั้น หรือ แว่นอ่านหนังสือ มี 3 รุ่น คือ

• Hilux Classic : เลนส์รุ่นเริ่มต้น เหมาะกับผู้ที่มีสายตาไม่สูง
• Nulux Classic : เลนส์ที่มีความบางมากขึ้น และมุมมองการมองเห็นภาพโดยรอบกว้างขึ้น จึงเหมาะกับผู้ที่มีสายตาปานกลาง
• Nulux EP : เพิ่มมุมมองการมองเห็นทุกทิศทางให้กว้างขึ้นสูงสุด เหมาะกับคนที่มีสายตาสูงหรือเป็นคนที่ sensitive ได้ความคมชัด และยังคงไว้ซึ่งความสบายตา

2. เลนส์ลดอาการตาล้าจากอุปกรณ์ดิจิทัล (Hoya Anti Fatique Lens or Relax Lens)

เป็นเลนส์ที่ออกแบบมาเพื่อเพื่อบรรเทาอาการตาล้าจากการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และโฟกัสระยะใกล้ได้ดีขึ้น

เลนส์รุ่นนี้ได้แก่ SyncIII : เลนส์ลดอาการบรรเทาอาการตาล้า ที่เหมาะกับคนที่ใช้สายตามองจออุปกรณ์ดิจิตอล 8-10 ชั่วโมงต่อวัน ที่มีอาการตาล้า ตาแห้ง คันตา และปวดหัว เห็นภาพเบลอไม่คงที่

3. เลนส์เฉพาะทาง (Hoya Office Lens)

เป็นเลนส์ 2 ระยะ ที่สามารถมองได้ทั้งระยะกลางและใกล้ เหมาะกับผู้ที่มีภาวะสายตายาวตามวัย และใช้ทำงานระยะใกล้ เช่น งานเอกสาร งานคอมพิวเตอร์
เลนส์เฉพาะทางของโฮย่า มี 4 รุ่น ได้แก่

• Supereader : เลนส์เฉพาะทางรุ่นเริ่มต้น ที่มีการทอนค่าสายตาระยะกลางและใกล้เพียงแค่ 2 ระยะ ได้แก่ ระยะ 0.6 m และ 1.2 m เหมาะกับการมองระยะมือถือ และระยะคอม
• Hoyalux Worksmart room : เลนส์เฉพาะทางรุ่นระดับเริ่มต้น ที่มีการทอนค่าสายตาระยะกลางและใกล้ ได้ตั้งแต่ระยะ 40 cm จนถึงระยะ 4 m มีพื้นที่การมองระยะดีขึ้น สามารถมองเห็นชัดที่ระยะมือถือ จนถึงระยะห้องประชุมเล็ก
• Hoyalux Workstyle business : เลนส์เฉพาะทางรุ่นระดับกลาง ที่มีการทอนค่าสายตามองกลางและใกล้ ตั้งแต่ ระยะ 40 cm ไปจนถึง 4 m มีพื้นที่การมองที่ดีเยี่ยม มุมมองระยะกลาง ใกล้ กว้างขึ้น และสบายตาขึ้น
• Hoyalux iD Workstyle 3 : เลนส์เฉพาะทางที่มีความเป็นเฉพาะบุคคลมากขึ้น โดยที่เราสามารถเลือกโครงสร้างได้ถึง 4 โครงสร้างให้เลือกใช้ และสามารถมองระยะกลาง ใกล้ได้ตั้งแต่ 40 cm ไปจนถึง 6 m ให้มุมมองกลางและใกล้กว้างขึ้น  ตอบสนองผู้ที่มีปัญหาสายตาซับซ้อน และต้องการการมองเห็นที่สบายตา คมชัด ปรับตัวง่าย

4. เลนส์สองชั้น (Hoya Bifocal Lens)

เป็นเลนส์ 2 ระยะ ที่สามารถมองได้ทั้งระยะไกลและใกล้ในเลนส์เดียว (ไม่มีระยะกลาง)
โดยส่วนบนของเลนส์จะเป็นส่วนมองไกล และส่วนครึ่งล่างของเลนส์จะเป็นส่วนมองใกล้ มี 2 รุ่น คือ

• Curve Top : เลนส์ 2 ชั้น ที่มีขีดข้างล่างเลนส์เป็นเส้นโค้ง
• Flat Top : เลนส์ 2 ชั้น ที่มีขีดข้างล่างเลนส์เป็นเส้นตรง

5. เลนส์โปรเกรสซีฟ Hoya (Progressive Lens)

เป็นเลนส์หลายระยะไร้รอยต่อ ที่สามารถมองได้ทุกระยะ ทั้งระยะไกล กลาง และใกล้ เลนส์โปรเกรสซีฟของ โฮย่า มีทั้งหมด 8 รุ่น ได้แก่

• Amplitude Plus : รุ่นเริ่มต้นของเลนส์โปรเกรสซีฟ ของ Hoya เหมาะกับคนที่เริ่มมีค่าสายตายาวและค่าสายตาไม่สูง
• Dynamic summit : เลนส์โปรเกรสซีฟที่ออกแบบโครงสร้างให้ง่ายต่อผู้ใช้งาน เวลาเปลี่ยนมุมมองภาพจากระยะไกลเป็นใกล้ ทำให้สบายตาและคมชัดมากยิ่งขึ้น
• Dynamic premium : เลนส์โปรเกรสซีฟที่พัฒนาโครงสร้างการขัดเลนส์จาก Dynamit summit ให้ภาพที่มองเห็นกว้างและนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น
• iD Lifestyle balansis : เลนส์โปรเกรสซีฟที่มีการพัฒนาออกแบบเลนส์ ให้มีมุมมองที่กว้างขึ้น หาความคมชัดของภาพได้ง่ายขึ้น เมื่อมองไกล ไป มองใกล้ และช่วยลดภาพสั่นไหว และยังคงไว้ซึ่งความนุ่มนวลสบายตา
• ID Lifestyle 4 : เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นที่มีการออกแบบให้เลนส์ปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้สวมใส่ โดยคำนึงถึงตำแหน่งของกรอบแว่นในขณะที่เราสวมใส่ และเป็นรุ่นแรกของเลนส์โปรเกรสซีฟที่ผู้สวมใส่สามารถเลือกโครงสร้างเลนส์ได้ตามความต้องการในชีวิตประจำวัน ทำให้ปรับตัวได้ง่าย
• iD Mystyle Profile : เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นที่ได้มีการออกแบบโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟให้เราได้เลือกใช้ถึง 5 โครงสร้าง ตามรูปแบบการมองเห็นของลักษณะแต่ละบุคคล เหมาะกับผู้ที่ใช้แว่น progressive มาก่อน หรือแม้กระทั่งผู้ที่ใช้เป็นครั้งแรก
• iD Mystyle V+ : เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลที่นำเทคโนโลยี Binocular Harmonization ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับรู้มิติของภาพ และเพิ่มความคมชัดในการมองเห็น แม้ว่าค่าสายตาสองข้างไม่เท่ากัน นอกจากนี้ยังใช้เครื่องตรวจวัดพฤติกรรมการใช้สายตา 3D ของ Hoya มาคำนวณหาค่าพารามิเตอร์ของกรอบแว่นกับเลนส์สายตา เพื่อความแม่นยำสูงสุด
• iD Myself : เลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลรุ่น Top ที่เป็น Tailor-Made Progressive Lens อย่างแท้จริง มีเทคโนโลยี AdaptEase ที่เพิ่มพื้นที่การมองเห็นให้กว้างขึ้นทุกระยะ โดยเฉพาะระยะคอมพิวเตอร์ ลดความสั่นไหวของภาพด้านข้าง และโฟกัสภาพได้ดีแม้กำลังเคลื่อนไหว ใช้ร่วมกับเครื่องตรวจวัดพฤติกรรมการใช้สายตา 3D ของ Hoya เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเลนส์สูงสุด

6. เลนส์ควบคุมสายตาสั้นในเด็ก (Hoya Myopia Control Lens)

เป็นเลนส์ชั้นเดียว  ที่ออกแบบมาเพื่อชะลอการเพิ่มขึ้นของสายตาสั้นในเด็ก ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อการเป็นโรคตาในอนาคต เลนส์ชะลอสายตาสั้นของ Hoya มี 1 รุ่น คือ 

• Miyosmart : เป็นเลนส์สายตาที่มีเทคโนโลยี D.I.M.S. เป็นโซนรังผึ้งทีอยู่ล้อมรอบพื้นที่การมองเห็นชัด ทำหน้าที่ให้แสงโดยรอบตกกระทบก่อนถึงจอประสาทตา ช่วยชะลออัตราการยืดขยายของกระบอกตา จึงทำให้ค่าสายตาสั้นในเด็กเพิ่มขึ้นช้าลง โดยที่การมองเห็นภาพของเด็กผ่านเลนส์ miyosmart ยังคมชัดเป็นปกติ

เลนส์ Hoya ดีไหม ทำไมทั่วโลกถึงนิยมใช้

สาเหตุที่คนทั่วโลกให้การยอมรับ และมั่นใจในเลนส์ Hoya ว่าดีจริง เนื่องจาก

1. บริษัทก่อตั้งมาอย่างยาวนาน ต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น มีเทคโนโลยีการผลิตเลนส์ทันสมัย
2. มีการพัฒนาเลนส์ขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนที่มี Lifestyle ไม่เหมือนกัน และเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา
3. มีความใส่ใจในการผลิตเลนส์ที่มีความหลากหลายให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้ ในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น

• ชนิดของเลนส์แว่นตามีให้เลือกหลายชนิด
• มีจุดแข็งของ Coating ที่มีปกป้องดวงตาอย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด และมีความแข็งแรง ทนทาน มากๆ อันดับต้นๆ ของแบรนด์แว่นตา
• มีรูปแบบสีของเลนส์ให้ลูกค้าเลือกใช้ได้หลากหลายรูปแบบ
• มีโครงสร้างเลนส์เยอะมากอันดับต้นๆ ของแบรนด์แว่นตา

เลนส์ Hoya ราคาเท่าไหร่

ราคาเริ่มต้นของเลนส์ Hoya ชนิดต่างๆ ที่ Mattaya Vision Center มีดังต่อไปนี้

• เลนส์ชั้นเดียว ราคาเริ่มต้น 3,000 บาท
• เลนส์ลดอาการตาล้าจากอุปกรณ์ดิจิทัล  ราคาเริ่มต้น 6,900 บาท
• เลนส์เฉพาะทาง  ราคาเริ่มต้น 6,600  บาท
• เลนส์ 2 ชั้น ราคาเริ่มต้น 3,150 บาท
• เลนส์ควบคุมสายตาสั้นในเด็ก ราคาเริ่มต้น 12,900  บาท
• เลนส์โปรเกรสซีฟ ราคาเริ่มต้น 8,100  บาท

ดูรายละเอียดของเลนส์โปรเกรสซีฟ ราคาเท่าไหร่ อัพเดทล่าสุด ปี 2024