ในคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป จะเริ่มมีปัญหามองใกล้ไม่คมชัด ซึ่งเราเรียกกันอีกชื่อว่า สายตายาวตามวัย (PRESBYOPE) ดังนั้น คนที่อายุมากกว่า 40 ปี จะเริ่มต้องการแว่นสายตาที่ช่วยในการมองใกล้เพิ่มขึ้น ซึ่งเลนส์ที่สามารถช่วยในการมองใกล้ได้ก็มีให้เลือกใช้หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไปค่ะ ในปัจจุบันนั้นมนุษย์ทำงานอยู่บนคอมพิวเตอร์กันมากขึ้น ทำให้เกิดเลนส์สายตาเฉพาะทางขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์กิจกรรมเฉพาะเหล่านี้ขึ้นมา ซึ่งแบรนด์ HOYA (โฮย่า) นั้นก็ได้มีการทำเลนส์เฉพาะทางที่ตอบโจทย์ในแต่ละกิจกรรมได้อย่างครอบคลุมการใช้งานในชีวิตประจำวัน
เลือกอ่านตามหัวข้อที่สนใจได้เลยค่ะ
เลนส์เฉพาะทาง (Office Lens) คืออะไร ?
เลนส์เฉพาะทาง หรือที่มักเรียกกันว่า เลนส์กลาง-ใกล้ หรือ ออฟฟิศเลนส์ จัดเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟอีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นการใช้งานในบ้านหรือการทำงานในออฟฟิศ
ปัจจุบันเลนส์ประเภทนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น จากไลฟ์สไตล์ของมนุษย์ที่เปลี่ยนแปลงไป มีการทำงานที่หลากหลายระยะพร้อมๆกันมากขึ้น เช่นใช้งาน คอมพิวเตอร์, NOTEBOOK , IPAD , SMARTPHONE และทำงานเอกสาร ซึ่งสิ่งของเหล่านี้จะกระจายอยู่ช่วงระยะประมาณ 40 – 100 เซนติเมตร ซึ่งเรียกอีกชื่อว่า ระยะกลางและใกล้
ในปัจจุบันมีผู้ใช้งานระยะกลางและใกล้มากขึ้น ส่งผลให้บริษัทเลนส์ต่างๆได้ทำการออกแบบเลนส์ประเภทนี้ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาให้คนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ
โดยดีไซน์ของโครงสร้างเลนส์จะการเน้นใช้งานระยะใกล้และระยะกลาง ที่เป็นระยะสำหรับอ่านหนังสือ เล่นมือถือ ระยะ NOTEBOOK และระยะคอมพิวเตอร์ ซึ่งต่างจากเลนส์โปรเกรสซีฟทั่วไปที่เน้นเรื่องการมองระยะไกล และต่างจากแว่นสำหรับอ่านหนังสือทั่วไปที่สามารถมองคมชัดได้เพียงระยะเดียวเท่านั้น
เลนส์เฉพาะทาง HOYA (โฮย่า)
HOYA (โฮย่า) แบรนด์เลนส์แว่นตาจากประเทศญี่ปุ่นเป็นแบรนด์ที่คนไทยรู้จักกันดี ได้ยินกันติดหู และเป็นที่นิยมกันพอสมควร ซึ่งบริษัทโฮย่าได้ออกแบบเลนส์มากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น โปรเกรสซีฟเลนส์,เลนส์ชั้นเดียว หรือ เลนส์เฉพาะทาง
ซึ่งการออกแบบเลนส์ของ HOYA (โฮย่า) จะมีการคำนึงถึง การทำงานของตาทั้งสองข้างร่วมกัน เพื่อทำให้การมองเห็นในทุกระยะมีความนุ่มนวลสบายตา และมีการคำนวณค่าสายตาเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน
โดยเลนส์เฉพาะทางของ HOYA (โฮย่า) มีรุ่นที่นิยมใช้งานกันค่อนข้างมาก 3 รุ่นคือ ADD POWER , LECTURE และ TACT
1.ADD POWER
ADD POWER เป็นรุ่นที่เน้นมองระยะใกล้ เหมาะสำหรับคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป ที่เริ่มมีปัญหาการมองใกล้ไม่ชัดและมีการใช้งานทั้งระยะใกล้และใช้งานระยะอื่นบ้างเล็กน้อยแต่ไม่เกิน 1 เมตร ซึ่งระยะการมองของเลนส์ ADD POWER จะดีกว่าแว่นอ่านหนังสือทั่วไป ที่มองได้แค่ระยะใดระยะนึงเท่านั้นหากนำไปมองระยะอื่นก็จะไม่คมชัด
โดยรุ่น ADD POWER LENS จะเป็นเลนส์ที่มีการทอนค่าสายตาเล็กน้อยเพื่อให้มองไกลออกมาจากระยะมือถือได้ ซึ่งจะเหมาะกับคนที่มีการใช้งานอยู่ที่ระยะประมาณ 40 – 80 เซนติเมตร ถ้าหากให้หมอแนะนำกิจกรรมคร่าวๆก็จะเป็นคนที่ใช้งานในกลุ่มใช้งานมือถือ IPAD เอกสาร และกลุ่มใข้งาน NOTEBOOK หากใช้เป็นกลุ่มคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ อาจจะมีความไม่ตอบโจทย์ในบางท่านเพราะระยะไกลเกินไป
2.LECTURE
LECTURE เป็นรุ่นที่มีการขยับช่วงระยะไกลเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเหมาะกับคนที่ใช้งานบริเวณโต๊ะทำงาน ระยะการใช้งานราวๆ เกินช่วง 1 เมตรออกมาแต่ไม่เกิน 2 เมตร ซึ่งปัจจุบันงานของหลายๆคนก็จะอยู่ช่วงระยะประมาณนี้เป็นหลัก
โดยเลนส์ LECTURE เป็นเลนส์ที่สามารถจะใช้สำหรับทำงานระยะคอมพิวเตอร์ ได้ชัดเจน โดยที่ไม่ต้องโน้มตัวเข้าใกล้จอ หรือว่าเชิดหน้าเหมือนการใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟ ทำให้ผู้ใส่ใช้งานใส่สบายมากกว่า และด้วยมุมมองการเห็นที่กว้าง ทำให้เลนส์ LECTURE เหมาะกับคนที่นั่งทำงานหน้าจอทั้งวันและไม่ได้มองไกลเกินกว่า 2 เมตร
โดย LECTURE แบ่งออกเป็น 2 type ได้แก่ type A และ B โดยแต่ละ type จะแตกต่างกันที่ระยะลึกในการมองว่าสามารถมองได้ไกลมากเพียงใด แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับค่าสายตาของแต่ละบุคคล ซึ่งจำเป็นต้องนำมาประกอบการพิจารณาก่อนตัดเลนส์ด้วยค่ะ
3.TACT(WORKSTYLE)
TACT(WORKSTYLE) เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นการทำงานในห้องเป็นหลัก หรือเรียกอีกชื่อว่า INDOOR PROGRESSIVE ก็ได้ โดยรุ่นนี้จะเพิ่มระยะไกลมากขึ้น โดยระยะไกลสุดช่วง 2-4 เมตร สามารถใส่เดินได้ในห้องเน้นการใส่ในห้องทำงานและในอาคารเป็นหลัก ไม่เน้นการใส่เดินออกไปนอกอาคารหรือการขับรถ โดยรุ่น TACT(WORKSTYLE) จะให้มุมมองการอ่านหนังสือระยะใกล้ และระยะกลางเช่นระยะคอมพิวเตอร์ที่กว้างกว่าเลนส์โปรเกรสซีฟทั่วไป แต่ข้อจำกัดคือไม่สามารถมองระยะไกลเกินกว่า 2 – 4 เมตรได้
โดย TACT(WORKSTYLE) จะแตกต่างจากเลนส์ LECTURE และ ADD POWER ตรงที่ TACT(WORKSTYLE) จะสามารถมองได้ไกลกว่า และสามารถที่จะใส่เดินได้ภายในห้อง ในบ้าน ในที่ทำงานและห้องประชุมได้ดีกว่าเลนส์ LECTURE และ ADD POWER แต่การมองระยะใกล้จะแคบกว่าค่ะ
ดังนั้น TACT(WORKSTYLE) จัดว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีสำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่การมองเห็นระยะใกล้ที่กว้างขึ้นเมื่อเทียบกับเลนส์ PROGRESSIVE สบายตา และง่ายต่อการกวาดตาไปมา แต่อาจไม่เหมาะสมกับการใช้งานภายนอกอาคาร เช่น นำไปใส่เดินนอกอาคารหรือนำไปใส่ขับรถ เพราะจะทำให้มองไม่ชัดและมึนหัวได้ ซึ่งทางเรามีบริการให้คุณลูกค้าใส่เปรียบเทียบในแต่ละรุ่นดูก่อน เพื่อหาเลนส์ที่เหมาะกับกิจกรรมที่คุณลูกค้าใช้งานค่ะ
สารเคลือบผิวของเลนส์เฉพาะทาง HOYA (โฮย่า)
เลนส์ของ HOYA (โฮย่า) มีสารเคลือบผิวเลนส์ให้เลือกหลายรุ่น
-
VP เป็นการเคลือบเลนส์เพื่อลดแสงสะท้อนและปกป้องผิวหน้าเลนส์จากรอยขีดข่วนและคราบต่างๆ
-
SFT เป็นการเคลือบเลนส์เพื่อลดแสงสะท้อนและปกป้องผิวหน้าเลนส์จากรอยขีดข่วนและคราบต่างๆ เพิ่มขึ้นจาก VP
-
VG เป็นการเคลือบเลนส์เพื่อลดแสงสะท้อนและปกป้องผิวหน้าเลนส์จากรอยขีดข่วนและคราบต่างๆ แบบสูงสุด และลดในส่วนของรอยนิ้วมือและไฟฟ้าสถิตที่จะทำให้ฝุ่นเกาะได้มากขึ้น
-
BLUE เป็น COAT ช่วยกรองแสงรังสี UV และแสงสีน้ำเงิน ที่เป็นอันตรายไม่ให้ผ่านเข้าไปสู่ดวงตาของผู้ใช้ และมีติดสีเหลืองนวลเล็กน้อยเพื่อช่วยให้เกิดความสบายตาในการมอง
สรุป
จะเห็นได้ว่า แบรนด์ HOYA (โฮย่า) มีสุดยอดนวัตกรรมในการผลิตเลนส์เฉพาะทาง ที่ทำให้คุณสวมใส่ได้อย่างสบายใจ ไร้ความกังวล มีเลนส์ที่ตอบโจทย์ทุกระยะการใช้งาน ตั้งแต่คนที่ใช้งานในช่วง ใกล้–กลาง จนถึง ช่วง 2 – 4 เมตร
โดยเลนส์ในตลาดนั้นมีหลายรุ่น หลายยี่ห้อ และหลายรูปแบบให้เราเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งานของเรามากที่สุด ดังนั้นก่อนตัดเลนส์ผู้ใช้ควรถามตัวเองว่าจะนำเลนส์นั้นไปใช้ใส่สำหรับทำอะไร หรือ ระยะการใช้งานไหนที่มีปัญหาในการใช้งานมากที่สุด เพื่อที่จะตัดเลนส์ได้อย่างถูกลักษณะการใช้งาน ทำให้เราสามารถใช้งานได้อย่างสบายตาในชีวิตประจำวันค่ะ
หากลูกค้าสนใจตัดแว่นสายตา และอยากทดลองเลนส์เฉพาะทาง สามารถเข้ามาตรวจวัดสายตา และปรึกษาการใช้งานได้ที่ MATTAYA CLINIC & BE MY GLASSES ทั้ง 2 สาขาได้เลยค่ะ