เมื่ออายุเริ่มเข้าสู่วัยกลางคน จากที่มีปัญหาสายตาแค่ในระยะไกลเพียงอย่างเดียว กลับกลายเป็นระยะใกล้เริ่มมองมัว อ่านหนังสือไม่คมชัด รู้สึกต้องพยายามเพ่งหรือจำเป็นต้องถอดแว่นเมื่อมองใกล้ถึงจะคมชัด ทำให้ต้องใส่ ๆ ถอด ๆ แว่น สร้างความรำคาญในการดำเนินชีวิตประจำวัน วันนี้หมออยากจะแชร์เรื่องราวของคุณวรพจน์ให้สำหรับคนที่มีปัญหามองไกลไม่ชัดมีค่าสายตาสั้น เมื่อมีค่าสายตายาวตามอายุเพิ่มเข้ามา มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไรไปอ่านกันค่ะ
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจได้เลยค่ะ
อาการสายตายาวตามวัย
คนเราเมื่ออายุเริ่มก้าวเข้าใกล้เลข 4 แล้วจะมีอาการที่เรียกว่า สายตายาวตามวัยซึ่งเกิดจากภาวะกำลังการเพ่งของดวงตาลดลงจากความเสื่อมที่มาตามวัยของร่างกาย เช่นแต่ก่อนก็รู้สึกว่ามองไกลชัดดีนะไม่มีปัญหาอะไร แต่ปัจจุบันเริ่มรู้สึกว่าไม่ชัดเหมือนแต่ก่อน
ซึ่งคนที่มีภาวะนี้บางท่านอาจใช้แค่แว่นสายตาอ่านหนังสือแบบถอดๆใส่ๆ ไม่สะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตเลนส์มีความก้าวหน้ามากขึ้นจึงมีเลนส์ที่เรียกว่า โปรเกรสซีฟเลนส์ ที่สามารถมองได้ทุกระยะ ทั้ง ไกล กลาง ใกล้ อยู่ในแว่นสายตาอันเดียวไม่ต้องถอดๆใส่ๆ หรือสลับแว่นไปมาค่ะ
Lifestyle
คุณวรพจน์ อายุ 46 ปี ทำงานบริษัท ลักษณะการใช้สายตาในการทำงานคือ มีการใช้คอมพิวเตอร์ IPAD โทรศัพท์มือถือ และมีการเดินดูงานนอก Office ค่อนข้างเยอะ นอกเหนือเวลางานยังมีการใช้สายตาในการขับรถ ดูทีวี และอ่านหนังสืออีกด้วย
ปัญหาสายตาที่ตรวจพบในปัจจุบัน
คุณวรพจน์ปัจจุบันใช้แว่นเลนส์ชั้นเดียวในการมองระยะไกล เนื่องจากมีค่าสายตาสั้น ปัจจุบันเริ่มมีปัญหาการใช้สายตาในระยะใกล้ตอนทำงาน เช่นตอนมองคอมพิวเตอร์ ดูโทรศัพท์ อ่านหนังสือไม่ชัด จำเป็นต้องถอดแว่นเมื่อเปลี่ยนระยะมามองที่ใกล้ๆ
และแว่นคู่เดิมของคุณวรพจน์ที่ใช้มองในระยะไกลนั้นเริ่มมัว ไม่คมชัดแล้ว จึงได้หาข้อมูลและตัดสินใจเข้ามาปรึกษาและทดลองเลนส์กับที่ MATTAYA CLINIC & BE MY GLASSES
ค่าสายตา
แว่นปัจจุบันที่เป็นเลนส์ชั้นเดียว ค่าสายตาคือ
ข้างขวา : -1.50
ข้างซ้าย : -1.50
โดยค่าสายตาล่าสุดที่หมอวัดได้คือ
ข้างขวา : -1.75
ข้างซ้าย : -1.75
ค่า Add : +1.50
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
หลังจากที่หมอซักประวัติเรียบร้อยแล้ว หมอได้ทำการตรวจวัดสายตาคุณวรพจน์แบบละเอียด โดยใช้เครื่อง Auto-refractor และ Phoropter ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยที่ให้ความแม่นยำสูงสุด
หลังจากตรวจวัดสายตาเรียบร้อยพบว่า คุณวรพจน์มีสายตาสั้นพอสมควรที่มองระยะไกลและที่มองระยะใกล้ก็เริ่มมีสายตายาวตามวัยเข้ามา เมื่อแก้ไขแล้วรู้สึกชัดเจนขึ้นว่าค่อนข้างสบายตา ซึ่งค่าสายตาที่ระยะใกล้และระยะไกลของคุณวรพจน์นั้น เมื่อรวมกันแล้วมีค่าใกล้เคียงตาเปล่า นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เมื่อถอดแว่นออกแล้วมองในระยะใกล้ด้วยตาเปล่าจึงชัดกว่าใส่แว่น
ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาที่ว่าไม่อยากจะถอด ๆ ใส่ ๆ แว่นเมื่อเปลี่ยนระยะการมองของคุณวรพจน์มีด้วยกัน 2 วิธีด้วยกันคือ
วิธีที่ 1 ใส่เลนส์สองชั้น หรือ Bifocal Lens
เลนส์สองชั้นเป็นเลนส์ที่มองได้ทั้งระยะไกล และระยะใกล้ มีรอยต่อเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวบริเวณด้านล่างของตัวเลนส์ไว้ใช้สำหรับมองระยะใกล้ เป็นที่นิยมใช้กันมากในสมัยก่อน
ข้อเสียคือมองได้แค่ระยะไกล 6 เมตรขึ้นไป และระยะใกล้ เช่น ระยะอ่านหนังสือหรือเล่นโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ไม่สามารถใช้มองระยะกลางที่เป็นระยะใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ และมีรอยต่อบนตัวเลนส์ไม่สวยงาม
วิธีที่ 2 ใส่เลนส์โปรเกรสซีฟ
เป็นเลนส์ไร้รอยต่อที่สามารถมองได้ทั้งระยะไกล ระยะกลาง และระยะใกล้ กล่าวคือ สามารถมองได้คมชัดครบจบทุกระยะในเลนส์เดียว แต่เลนส์โปรเกรสซีฟก็มีข้อเสียด้วยเช่นกันคือ มีภาพบิดเบือนที่บริเวณด้านข้างของตัวเลนส์
โดยโครงสร้างของตัวเลนส์โปรเกรสซีฟจะเป็นรูปนาฬิกาทราย พื้นที่สำหรับมองไกลจะกว้างที่สุด รองลงมาจะเป็นพื้นที่สำหรับอ่านหนังสือ และพื้นที่ที่แคบที่สุดของเลนส์โปรเกรสซีฟจะเป็นพื้นที่สำหรับระยะกลาง เช่นระยะมองจอคอมพิวเตอร์ดั้งนั้นผู้สวมใส่จึงจำเป็นต้องปรับพฤติกรรมในการใช้สายตาให้เข้ากับตัวเลนส์
หลังจากหมอได้แนะนำทั้ง 2 วิธี ให้คุณลูกค้าตัดสินใจ
คุณวรพจน์ได้ตัดสินใจตัดเลนส์โปรเกรสซีฟที่สามารถมองเห็นชัดครบทุกระยะการใช้งาน จบครบในแว่นเดียวครับ
ทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟ Hoya รุ่น LifeStyle Balansis
หลังจากหมอตรวจวัดสายตาอย่างละเอียด หมอได้ให้คุณลูกค้าทดลองเลนส์โปรเกรสซีฟ ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ พบว่าเลนส์โปรเกรสซีฟนั้นมีทั้งแบรนด์ที่รู้สึกปรับตัวได้ง่าย สามารถหามุมมองในแต่ละระยะได้ง่าย และทั้งแบรนด์ที่รู้สึกว่าหาระยะชัดได้ยาก ปรับตัวได้ค่อนข้างยาก มีความวูบวาบเยอะ
เมื่อทดลองแล้วพบว่าแบรนด์ที่คุณวรพจน์ปรับตัวได้ง่ายที่สุด สบายตาและมีความวูบวาบน้อยที่สุด คือแบรนด์ Hoya และเมื่อได้แบรนด์แล้วคุณหมอก็ได้ให้เริ่มทดลองรุ่น เพื่อดูว่าแต่ละรุ่นคุณวรพจน์รู้สึกว่ารุ่นไหนที่ปรับตัวได้ง่าย หาพื้นที่ในการมองระยะกลางและระยะใกล้ได้ง่าย ไม่รู้สึกฝืนปรับตัวและพยายามจนเกินไป พบว่าเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟ Hoya รุ่น LifeStyle Balansis
เมื่อได้พิจารณาจากกิจกรรมในชีวิตประจำวันและชี้แจงในเรื่องการใช้งานอย่างละเอียดแล้วพบว่า คุณวรพจน์นั้นเรียนรู้เกี่ยวกับโครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟได้ค่อนข้างไว จึงไม่ค่อยมีปัญหาในการปรับตัว
กรอบแว่น
การเลือกกรอบแว่นนั้นค่อนข้างสำคัญ หมอแนะนำว่าหากเป็นไปได้ในการเลือกแว่นไม่ว่าจะเป็นเลนส์แบบไหนก็ตามแนะนำให้มีแป้นจมูก เพื่อให้คุณหมอหรือช่างแว่นสามารถช่วยปรับแต่งได้หากมีอาการใช้แล้วไม่สบายตาเช่นหาระยะโฟกัสไม่เจอ หรือ ระยะการอ่านหนังสือหรือระยะกลางมากวนตาในเวลาเดินหรือการใช้สายตาที่มองไกล
โดยคุณวรพจน์ได้เลือกกรอบแว่นยี่ห้อ IC-BERLIN ที่เป็นแบรนด์จากประเทศเยอรมัน มีความแข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา ทำจากวัสดุสแตนเลสเกรดเครื่องมือแพทย์ ไม่ก่อเกิดอาการแพ้ กรอบมีลักษณะเป็นเส้นบาง มีความยืดหยุ่นสูง และไม่มีน็อต ดังนั้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตัวแว่น เช่น หล่น หรือ เผลอนั่งทับ ตัวขาของแว่นจะเด้งตัวเองออกจากกรอบ และสามารถต่อกลับเข้าไปได้เหมือนเดิม
สรุป
หลังจากหมอได้แนะนำให้คุณวรพจน์ให้รู้จักกับเลนส์โปรเกรสซีฟ คุณวรพจน์รู้สึกชื่นชอบเป็นอย่างมาก เพราะสามารถแก้ปัญหาการมองเห็นได้ทั้งในระยะไกลและระยะใกล้ และแก้ไขปัญหาที่ต้องใส่ ๆ ถอด ๆ แว่นอยู่ตลอด เพราะแว่นตาโปรเกรสซีฟนั้น เป็นแว่นคู่เดียวจบคมชัดทุกระยะการมอง
MATTAYA CLINIC & BE MY GLASSES ขอขอบคุณ คุณวรพจน์ ที่ไว้วางใจให้ทางเราได้เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสายตาของคุณลูกค้าค่ะ